วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2555

การพนัน การลงทุน การ "ทำบุญ"


การพนันคือการจ่ายเงินโดยหวังผลตอบแทนต่อเจ้าของเงินเป็นตัวเงินตามความน่าจะเป็น
การลงทุนคือการจ่ายเงินโดยหวังผลตอบแทนต่อเจ้าของเงินเป็นตัวเงิน โดยผู้จ่ายเงินสามารถเลือกช่องทางวิธีการ จังหวะเวลา และปัจจัยอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนมากที่สุด
การทำบุญคือการจ่ายเงินโดยหวังผลตอบแทนต่อเจ้าของเงินในรูปของสิ่งที่มองไม่เห็นที่เชื่อว่าจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นที่เรียกว่าบุญ

สามอย่างนี้มีองค์ประกอบร่วมที่เหมือนกัน คือ เป็นการจ่ายเงินโดยหวังผลตอบแทนต่อเจ้าของเงินเหมือนกัน
แต่บุญที่ว่าเนี่ย มีจริงไหม? ประสิทธิผลของมันเป็นไปตามที่ผู้จ่ายเงินคาดหวัง?

ผมตั้งคำถามนี้กับตัวเองมาพักใหญ่ๆ
ทำไมชาวบ้านที่ใส่บาตรทุกวันมานับสิบๆปีถึงไม่มีชีวิตที่ดีขึ้นสักที
ถ้ามันมีบุญ คืออำนาจอันมองไม่เห็นที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้น อยู่จริงเนี่ย ปริมาณมันน่าจะนับอสงไขยจนน่าจะทำให้ชีวิตชาวบ้านดีขึ้น
แต่มันก็ไม่เป็นอย่างนั้น

พระภิกษุที่แม่ผมใส่บาตรเป็นประจำรูปหนึ่ง มีวัตรปฏิบัติดีงามตามที่พุทธศาสนิกยอมรับ ไม่รับประทานเนื้อสัตว์
ก็ยังมีวันที่ล้มหมอนนอนเสื่อแรมเดือน
แม่ผมกินเจรักษาศีลมาร่วมยี่สิบปียังเป็น Fuch's Dystrophy โรคที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของคนนอกวงการโรคตา
คนไข้ประจำรายหนึ่งมีวิถีชีวิตที่เหมือนกับแม่ผมเกือบทุกประการก็ยังเป็นโรคหัวใจและอื่น ๆ มาหาผมอยู่เรื่อย

ทำไม?
กรรมเก่า?
คนประเทศนี้มันมีกรรมเก่ากันเยอะเป็นส่วนใหญ่เลยหรือ?

จ่ายเงินเพื่อ "บุญ" ไม่ได้ผลก็โทษ "กรรม"

ไม่เคยมีใครตั้งคำถามว่า จ่ายเงินแล้วได้ "บุญ" จริงไหม หรือ "บุญ" น่ะมีไหม หรือมันมีประสิทธิภาพจริงตามที่เชื่อไหม

บางคนบอกว่า "ทำบุญ" เพื่อลดความตระหนี่
ผมกลับคิดว่า "ทำบุญ" แบบที่บ้านนี้เมืองนี้เรียกกันเนี่ยคือการแสดงออกซึ่งความเห็นแก่ตัวอย่างหนึ่ง
เพราะมันคือ "การจ่ายเงินโดยหวังผลตอบแทนต่อเจ้าของเงิน" อยู่ดี แค่เปลี่ยนรูปแบบผลตอบแทนที่คาดหวังเท่านั้น

บางคนบอกว่า "ทำบุญ" แล้วได้ความสุขทันที
ผมคิดว่า ถ้าจ่ายเงินเพื่อความสุขมันก็มีตั้งหลายอย่าง
แล้วถ้าจะบอกว่า เป็นความสุขจากการให้ ละก็ ผมจะถามว่า จริง ๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่
มันคือความคาดหวังล่วงหน้าถึงผลตอบแทนที่ได้รับที่เรียกว่าบุญหรือเปล่า
ไม่เคยมีใครตั้งคำถามอย่างจริงจังกลับไปในอดีตว่าสิ่งที่คาดหวังมันเป็นไปตามที่คาดหวังไหม
หรือสุดท้ายเงินของเรากลายเป็นข้าวหมาแมว กองอิฐ สิ่งก่อสร้างอันไม่ได้ช่วยให้ชีวิตและสังคมดีขึ้นอย่างประเมินผลได้ไม่ subjective แม้กระทั่งความสำราญส่วนตัวของเหลือบริ้นในคราบนักบวช

หากจะหวัง "ความสุขจากการให้" ไม่ต้องไปคาดหวังล่วงหน้าหรอก
"ให้" กับ "คนที่ยังด้อยโอกาส"
"ให้" กับ "สังคมที่ยังด้อยโอกาส"
แล้วรอดูปฏิกิริยาตอบสนองของพวกเขาสิครับ ผมรับรองว่าคุณจะมีความสุขทันทีที่ไม่ใช่การหลอกตัวเอง
ถ้าคุณจะ "สละทรัพย์" ขอให้สละทรัพย์เพื่อสังคม เพื่อคนที่ด้อยกว่า
สังคมดีขึ้น สวัสดิภาพคุณก็จะดีขึ้น เป็นผลตอบแทนต่อที่สองที่คุณจะได้อย่างเป็นรูปธรรมถัดจากความสุขที่เห็นผู้รับมีความสุข

อย่างน้อยในความคิดของผมก็เป็นรูปธรรมกว่า "บุญ"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น